วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

เขียนตำรา เชิงลึกหรือเชิงกว้างดี

ประเด็นที่ถูกถามอยู่บ่อยๆ ว่าจะทำตำรา/หนังสือ ในเชิงลึกซึ้งดี หรือในเชิงกว้างดี ทั้งสองแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรณีการใช้เพื่อขอตำแหน่งทางวิชาการ
ในความเป็นจริงแล้ว จะเขียนเชิงลึกหรือเขียนเชิงกว้าง ไม่เป็นประเด็นที่ทำให้คุณค่าของหนังสือ หรือตำราแตกต่างกัน ขึ้นกับกลุ่มเป้าหมาย หรือผู้อ่านเป็นหลัก หากกลุ่มเป้าหมายเป็นนักศึกษา หรือผู้ที่เริ่มจะเข้าสู่วงวิชาการ หรือเป็นแหล่งให้ผู้อ่านรื้อฟื้นความรู้ควรจะเขียนในมุมกว้าง แต่หากผู้อ่านเป็นกลุ่มที่มีความเชี่ยวชาญ อยู่ในแวดวงวิชาการแล้ว เช่นนักศึกษาระดับปริญญาโท เอก แพทย์ประจำบ้าน หรือนักวิจัย ก็ควรเขียนในเชิงลึก
ความยากง่ายของตำรา/หนังสือทั้งสองประเภทแตกต่างกัน การเขียนเชิงกว้างจะตั้งหัวเรื่องง่ายกว่า สามารถกำหนดเรื่องกว้างๆ ล้อเลียนไปกับหลักสูตร หรือโรคต่างๆที่พบบ่อย และเขียนเพื่อให้ผู้อ่านรู้เรื่องนั้นๆไปจนครบถ้วน มีการกล่าวพาดพิงไปถึงเรื่องต่างๆ เช่นสาเหตุ สิ่งแสดง อาการ การตรวจวิเคราะห์ การรักษา มีการกล่าวถึงในประเด็นต่างๆให้ครบ ผลการรักษา เป็นอย่างไร โดยไม่ต้องลงลึกไปถึงรายละเอียดว่าทำอย่างไร ผลการรักษาเปรียบเทียบกันในแต่ละวิธี มีความแตกต่างกันอย่างไร วิวัฒนาการแนวโน้มในอนาคตจะเป็นเช่นไร
เอกสารอ้างอิง ไม่ต้องมากนัก แต่ให้กล่าวถึงการอ้างอิงที่ระบุต้นสายปลายเหตุ ผลการรักษา ที่ได้เขียนไว้ในตำรา/หนังสือนั้นๆ
ความยากของการทำตำรา/หนังสือเชิงกว้าง คือผู้เขียนไม่ควรเขียนคนเดียว เพราะความน่าเชื่อถือจะน้อยลง เนื่องจาก ไม่มีใครที่จะเก่งไปเสียทุกเรื่อง อาทิเช่น หากจะเขียนถึงโรค การตรวจทางรังสีควรจะให้รังสีแพทย์เขียน การตรวจทางพยาธิวิทยาก็ควรเป็นพยาธิแพทย์เขียน ดังนั้นการเขียนหลายคนจะเป็นปัญหาในรูปแบบการเขียน การใช้ศัพท์ ที่บรรณาธิการจะต้องมาขัดเกลาให้เป็นแนวเดียวกัน อีกทั้งการส่งต้นฉบับอาจจะช้าไม่ทันตามกำหนด ทำให้หนังสือออกช้า เมื่อทวงถามอาจจะผิดใจกันได้
การเขียนเชิงลึก เหมาะกับผู้อ่านที่มีพื้นความรู้แล้ว เพียงแต่ยกบางประเด็นมากล่าวถึงให้ละเอีด กลุ่มเป้าหมายชัดเจน แต่จำนวนผู้สนใจอาจจะน้อย โอกาสทำเพื่อจำหน่ายมักจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ได้ประโยชน์ในการเผยแพร่ความรู้มากกว่า ข้อดีอีกประการหนึ่งของการเขียนเชิงลึกคือสามารถเขียนคนเดียวหรือจำนวนผู้เขียน2-3คนได้ บริหารจัดการง่าย แต่จะต้องมีข้อมูลเชิงลึก เชิงเปรียบเทียบ ว่าผลอะไรด้านไหนดีกว่ากันและข้อมูลอ้างอิงจะต้องทันสมัย
อีกประการหนึ่ง การเขียนเชิงลึกสามารถแทรกประสบการณ์และผลการวิจัยของตนเองได้มาก รวมถึงแทรกสิ่งอื่นๆ เช่น คลิปการผ่าตัด เป็นต้น
แต่ในด้านการพิจารณาเพื่อตำแหน่งทางวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิจะพิจารณาจากคำนำว่าเขียนเพื่อใคร เช่น ถ้าแจ้งว่าเขียนเพื่อนักศึกษาจะต้องเป็นเชิงกว้าง แต่หากเขียนเพื่อผู้อ่านระดับปริญญาโท เอก หรือผู้มีประสบการณ์ ถ้าเขียนเชิงกว้างจะทำให้ดูเหมือนคุณภาพไม่ถึงเกณฑ์ จึงต้องเป็นเชิงลึก และที่ผ่านมา ผู้ได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ด้วย หนังสือ/ตำราเชิงกว้าก็มีไม่น้อย ไม่ได้แตกต่างจากเชิงลึก

วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ความหมาย ตำรา และหนังสือ

ตำราและหนังสือทางวิชาการ มีลักษณะที่แทบจะเหมือนกัน คือเป็นเอกสารทางวิชาการที่เขียนขึ้นมาโดยมีรากฐานทางวิชาการกำกับ มีเนื้อหาสาระที่ครบถ้วน เสริมสร้างแนวความคิด ให้ผู้อ่าน ซึ่งตำรา หรือหนังสือ สามารถใช้ประกอบในการขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการได้ในทุกระดับ ซึ่งตามระเบียบเดิมของ กพอ. การขอกำหนดตำแหน่งในระดับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ , รองศาสตราจารย์ ใช้หนังสือ หรือตำรา เป็นบท และ ระดับศาสตรารจาร์ใช้ตำราเป็นเล่ม (ประมาณ 80หน้า ของตำราขนาดมาตรฐาน) แต่ในระเบียบ กพอ.ใหม่ ที่จะมีผลบังคับ ในเดือน พฤศจิกายน 2561 กำหนดเป็นเล่มในการขอตำแหน่งวิชาการทุกระดับ
 วัตถุประสงค์ของผู้อ่านตำรา/หนังสือจะต้องเพื่อการศึกษาระดับอุดมศึกษา จึงจะนำมาใช้ประกอบในการขอกำหนดตำแหน่งทางในมหาวิทยาลัยได้
ความแตกต่างของคำจำกัดความ ของตำรากับหนังสือ อยู่ที่ ตำรา จะต้องสามารถระบุ ระหัสวิชาและหลักสูตรที่ใช้ประกอบการสอน หาก เป็นเนื้อหาที่ไม่สามารถระบุระหัสวิชาได้ คือ เป็นความรู้ที่เกินเลยจากเนื้อหาวิชา ที่กำหนดหัวข้อหลักสูตร ก็จะเรียกว่าหนังสือ ถึงแม้ว่า จะพิมพ์ที่หน้าปกว่า "ตำรา" ก็ตาม ก็จัดกลุ่มเป็นหนังสือ ดังนั้น หากเขียนตำราให้มหาวิทยาลัยอื่น ซึ่งมีระหัสวิชาของมหาวิทยาลัยนั้นกำกับอยู่ แต่เมื่อกลับมาใช้ขอตำแหน่งวิชาการในมหาวิทยาลัยมหิดล จะจัดเป็นหนังสือ เพราะไม่มีระหัสวิชาของมหาวิทยาลัยมหิดลกำกับ
ส่วนคำจำกัดความ ของคำว่าบทนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ แต่ขึ้นกับ การตั้งหัวข้อในการเขียน หากตั้งไว้แคบ ก็จะจบเร็ว หากกว้างก็จะมีจำนวนหน้ามาก อย่างไรก็ดี จะต้องครบถ้วน อ่านเข้าใจ บรรลุตามวัตถุประสงค์และหัวข้อที่ตั้งไว้
จะเขียน ตำรา หรือหนังสือ เวลา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ พิจารณา จะมีนำ้หนักและคุณค่าในการเข้าสู่ตำแหน่ง ไม่ต่างกัน ส่วนใหญ่ จะขึ้นกับการทำเพื่อจำหน่ายมากกว่า เพราะหากทำตำรา มีระหัสวิชากำหนดอยู่ ผู้เรียนระหัสวิชานั้นๆ จะเป็นลูกค้าหลักในการซื้อตำราไปประกอบการเรียนvachira.koc@mahidol.edu